รวมข้อมูล

เครื่องมือเหล่านี้คำนวณจำนวนรวม ความยาว พื้นที่ และค่าสถิติเชิงพรรณนาพื้นฐานของฟีเจอร์ และฟิลด์ของฟิเจอร์ภายในพื้นที่ หรือที่อยู่ใกล้กับฟีเจอร์อื่น

• คะแนนรวม คำนวณค่าสถิติจากจุดที่อยู่ภายในบริเวณที่กำหนด
• การสรุปโดยระยะทาง คำนวณค่าสถิติของฟีทเจอร์หรือข้อมูลคุณลักษณะที่อยู่ภายในระยะทางที่กำหนด
• การสรุปข้อมูลที่อยู่ภายใน คำนวณค่าสถิติของพื้นที่ที่สนใจหรือข้อมูลคุณลักษณะที่มีการซ้อนทับกัน

รวมจุด

การใช้ชั้นข้อมูลประเภทจุดและชั้นข้อมูลประเภทพื้นที่ เครื่องมือนี้จะทำการเลือกจุดที่อยู่ในแต่ละพื้นที่และคำนวณค่าทางสถิติของจุดทุกจุดที่อยู่ในพื้นที่นั้นๆ ตัวอย่างเช่น

• แสดงจุดเกิดเหตุอาชญากรรม แล้วนับจำนวนอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในหนึ่งเขตการปกครองหรือในท้องที่นั้นๆ
• ค้นหากำไรสูงสุดและต่ำสุดที่ได้จากยอดขายสาขาแฟรนไชส์ในแต่ละรัฐ

สรุปใกล้เคียง

ค้นหาฟีเจอร์ที่อยู่ภายในระยะทางที่ระบุของฟีเจอร์ในชั้นข้อมูลอินพุท ระยะทางนั้นสามารถวัดตามความยาวของทางที่เป็นเส้นตรงหรือเส้นทางผันแปรของรูปแบบการเดินทางและค่าสถิติที่ถูกคำนวณโดยใช้ฟีเจอร์ที่อยู่ใกล้เคียงตัวอย่างเช่น

• คำนวณหาจำนวนประชากรทั้งหมดที่อยู่ในระยะเวลาการเดินทาง 5 นาทีจากตำแหน่งร้านค้าที่จะเปิดใหม่
• คำนวณจำนวนทางหลวงที่สามารถเข้าถึงตำแหน่งร้านค้าเปิดใหม่ได้ภายใน 5 นาที โดยการวัดความสามารถในการเข้าถึงร้านค้า

สรุปภายใน

ค้นหาพื้นที่ (และบางส่วนของพื้นที่) ที่ซ้อนทับกันระหว่างชั้นข้อมูล 2 ชั้น และคำนวณค่าสถิติที่มีการซ้อนทับกันตัวอย่างเช่น

• กำหนดชั้นข้อมูลพื้นที่รับน้ำและชั้นข้อมูลการใช้ที่ดินตามประเภทที่ดิน แล้วคำนวณพื้นที่การใช้ที่ดินทั้งหมดในแต่ละพื้นที่รับน้ำ
• กำหนดชั้นข้อมูลพื้นที่เมืองและชั้นข้อมูลขอบเขตเมือง แล้วสรุปค่าเฉลี่ยของพื้นที่ว่างเปล่าที่มีในแต่ละเมือง

ค้นหาตำแหน่งที่มีอยู่แล้ว

เลือกฟีเจอร์ที่มีอยู่จากพื้นที่ที่คุณกำลังศึกษาเพื่อให้สอดคล้องกับชุดเงื่อนไขที่คุณกำหนดไว้ เงื่อนไขเหล่านี้ขึ้นอยู่กับคำสั่งเชิงคุณลักษณะ (เช่น แปลงที่ดินที่ว่างเปล่า) และคำสั่งเชิงพื้นที่ (เช่น ภายในระยะทาง 1 กิโลเมตรจากแม่น้ำ)

ได้รับตำแหน่งใหม่

เลือกฟีเจอร์ที่มีอยู่จากพื้นที่ที่คุณกำลังศึกษาเพื่อให้สอดคล้องกับชุดเงื่อนไขที่คุณกำหนดไว้ เงื่อนไขเหล่านี้ขึ้นอยู่กับคำสั่งเชิงคุณลักษณะ (เช่น แปลงที่ดินที่ว่างเปล่า) และคำสั่งเชิงพื้นที่ (เช่น ภายในระยะทาง 1 กิโลเมตรจากแม่น้ำ)

เลือกจุดให้บริการที่ดีที่สุด

เลือกสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกโดยการจัดสรรสถานที่ที่มีความต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านั้นให้ตอบสนองเป้าหมายที่กำหนด

รูปแบบการวิเคราะห์

เครื่องมือเหล่านี้มีหน้าที่ในการระบุตัวตน คำนวณปริมาณ และแสดงผลลัพธ์ข้อมูลของคุณในรูปแบบเชิงพื้นที่

• คำนวณความหนาแน่น ตอบคำถามเกี่ยวกับจำนวนเหตุการณ์และการกระจายตัวของเหตุการณ์เหล่านั้นผ่านแผนที่
• ค้นหาจุดฮอตสปอต ระบุจากข้อมูลรูปแบบเชิงพื้นที่ที่ได้จากการรวบกลุ่มทางสถิติที่สำคัญ
• เพิ่มจุดข้อมูล คาดการณ์ข้อมูลที่จะเกิดขึ้นในตำแหน่งใหม่ๆ โดยอ้างอิงจากระยะข้อมูลที่พบในชุดข้อมูลที่สะสมไว้

คำนวณความหนาแน่น

การวิเคราะห์หาความหนาแน่น เป็นการตอบคำถามเกี่ยวกับจำนวนเหตุการณ์และการกระจายตัวของเหตุการณ์เหล่านั้นผ่านแผนที่ ตัวอย่างในการใช้เครื่องมือนี้ ได้แก่ การแสดงจำนวนการเกิดฟ้าผ่าหรือพายุทอร์นาโด การเข้าถึงการสิ่งอำนวยความสะดวกในการดูแลสุขภาพ และความหนาแน่นประชากร

ค้นหาจุดสูงสุด

เครื่องมือนี้ใช้ในการสร้างแผนที่สำหรับแสดงข้อมูลเชิงพื้นที่ที่ได้จากการรวบข้อมูลทางสถิติที่สำคัญ ใช้เครื่องมือนี้ในการยกเลิกจุดที่ไม่ต้องการ ทั้งจุดที่มีความถี่สูงสุด(สีแดง) และจุดที่มีความถี่น้อยสุด (สีน้ำเงิน) ไม่ว่าจะเป็นค่าใดก็ตาม เช่น มูลค่าบ้านเรือน ความถี่ในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน อัตราการจ้างงาน หรือค่าความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นต้น

คำนวณจุด

ด้วยเครื่องมือนี้ คุณสามารถคาดการณ์ข้อมูลที่จะเกิดขึ้นในตำแหน่งใหม่ๆ ได้ โดยอ้างอิงจากระยะข้อมูลที่พบในชุดข้อมูลที่สะสมไว้ โดยเครื่องมือนี้จะนำเอาข้อมูลจุดที่มีค่าตัวแปรแต่ละค่า และแก้ไขพื้นที่ให้เป็นไปตามกลุ่มที่มีการคาดการณ์ค่าตัวแปรไว้ ตัวอย่างในการใช้เครื่องมือนี้ ได้แก่ ใช้คาดการณ์ระดับปริมาณฝนในพื้นที่รับน้ำ โดยอ้างอิงจากปริมาณระดับน้ำฝนที่วัดได้ในแต่ละจุด

ใช้ระยะใกล้เคียง

เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้คุณตอบคำถามทั่วไปที่เกี่ยวกับการวิเคราะห์เชิงพื้นที่ได้: "อะไรใกล้กับอะไร"

• การเชื่อมโยงจากจุดเริ่มต้นไปยังจุดหมายปลายทาง ช่วยวัดระยะเวลาในการเดินทางหรือระยะทางระหว่างจุดสองจุด
• การสร้างระยะกันชน ใช้ในการสร้างพื้นที่ที่ออกจากจุดสนใจเป็นระยะทางเท่าๆ กัน
• การสร้างพื้นที่จากระยะเวลาการขับขี่ ค้นหาพื้นที่รอบๆ ตำแหน่งที่ต้องการเข้าถึงภายในระยะเวลาที่กำหนด
• การค้นหาระยะที่ใกล้ที่สุด กำหนดตำแหน่งต่างๆ ที่ใกล้กับตำแหน่งที่เลือกมากที่สุด
• การวางแผนเส้นทาง พิจารณาเลือกเส้นทางที่ดีที่สุดในการเดินทางไปยังจุดต่างๆ โดยใช้พาหนะต่างๆ

สร้างแนวกันชน

ระยะกันชน คือ พื้นที่ที่ครอบคลุมทั้งข้อมูลจุด เส้น หรือพื้นที่ที่สนใจ โดยมีระยะทางที่ขยายออกไปเท่าๆ กัน

ระยะกันชน มักใช้สร้างพื้นที่ใหม่ที่สามารถนำไปวิเคราะห์ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ ได้ เช่น ชั้นข้อมูลซ้อนทับ ตัวอย่างเช่น จากคำถาม "ในระยะ 1 ไมล์จากโรงเรียนนี้ มีสิ่งก่อสร้างใดบ้าง" คุณสามารถหาคำตอบได้จากการสร้างระยะกันชน 1 ไมล์ จากโรงเรียน และทำการซ้อนทับระหว่างระยะกันชนกับชั้นข้อมูลที่มีสิ่งก่อสร้างต่างๆ ผลลัพธ์ที่ได้คือ ชั้นข้อมูลแสดงสิ่งก่อสร้างที่อยู่ในระยะ 1 ไมล์จากโรงเรียน

ค้นหาใกล้เคียง

คำนวณค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวว่าแบบใดใกล้เคียงกันมากที่สุด ระหว่างแบบไม่เตรียมการ แบบมีสิ่งอำนวยความสะดวก และแบบเตรียมพร้อมทุกอย่าง ผลลัพธ์ที่ได้คือ ชั้นข้อมูลที่แสดงเส้นทางที่ดีที่สุดระหว่างแบบไม่เตรียมการและแบบมีสิ่งอำนวยความสะดวก พร้อมกับค่าใช้จ่ายระหว่างการเดินทาง (เวลาและระยะทาง) ในแต่ละเส้นทาง ตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้เครื่องมือนี้ค้นหาโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ หรือตู้ ATM ที่ใกล้ที่สุดจากจุดที่คุณอยู่ ณ ตอนนี้

วางแผนเส้นทาง

คุณจัดเตรียมชุดข้อมูลประเภทตำแหน่งที่ต้องหยุด และจำนวนยานพานหะที่ใช้งานจริง โดยการวางแผนเส้นทางจะช่วยพิจารณาจุดที่พาหนะควรหยุดหรือเส้นทางที่พาหนะหยุดแล้วจะเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด

ใช้เครื่องมือนี้ในการวางแผนการทำงานสำหรับทีมสำรวจ ทีมประเมินราคา ทีมผู้ให้บริการถึงบ้านลูกค้า และอื่นๆ ทั้งการบริการส่งหรือการไปรับสินค้าจากตำแหน่งที่ห่างไกล หรือการบริการขนส่งมวลชน

จัดการข้อมูล

เครื่องมือเหล่านี้ใช้ได้กับทั้งการจัดการข้อมูลทางภูมิศาสตร์แบบวันต่อวันและแบบรวบรวมข้อมูลก่อนที่จะนำไปวิเคราะห์

• การรวมขอบเขตของข้อมูล เชื่อมพื้นที่ที่มีขอบเขตและข้อมูลในตารางคุณลักษณะทั่วไปร่วมกัน
• การค้ดลอกข้อมูล สร้างชุดข้อมูลใหม่โดยการคัดลอกฟีเจอร์จากข้อมูลที่คุณมีอยู่แล้ว
• Merge Layers copies all the features from two or more existing layers into a new layer.
• Overlay Layers combines two or more layers into one single layer. You can think of overlay as peering through a stack of maps and creating a single map containing all the information found in the stack.

รวมพื้นที่

พื้นที่ที่ซ้อนทับกันหรือมีการใช้ขอบเขตร่วมกัน จะถูกผสานเข้าด้วยกันให้เป็นพื้นที่เดียวกัน

คุณสามารถกำหนดขอบเขตที่ต้องการทำการรวมข้อมูลได้ด้วยการกำหนดที่ฟิลด์ For example, if you have a layer of counties, and each county has a State_Name attribute, you can dissolve boundaries using the State_Name attribute. Adjacent counties will be merged together if they have the same value for State_Name. ผลลัพธ์ที่ได้คือชั้นข้อมูลที่แสดงขอบเขตในระดับเขต

เชื่อมชั้นข้อมูล

Copies features from two or more existing layers into a new layer, for example:

• I have three layers for England, Wales, and Scotland and I want a single layer of Great Britain.
• I have 12 layers and each contains parcel information for contiguous townships. I want to join them together into a single layer, keeping only the attributes that have the same name and type on the 12 input layers.